fbpx

+++ การประกันภัยแบบการประกันวินาศภัย

การประกันภัยแบบการประกันวินาศภัย

>>การประกันภัยนั้นสามารถแบ่งออกเป็นสองชนิดคือ การประกันภัยแบบการประกันชีวิต และการประกันภัยแบบการประกันวินาศภัย

>>การประกันวินาศภัย คือ การประกันภัยแบบที่ผู้รับประกันนั้นทำสัญญายินยอมที่จะชดใช้ให้แก่ผู้ทำประกันในกรณีที่เกิดความเสียหายเกี่ยวกับทรัพย์สินใดที่ทำประกันภัยไว้ โดยได้ทำการตกลงจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยให้แก่ผู้รับประกันภัยไว้ก่อน แบ่งเป็น

  • การประกันภัยอัคคีภัย>>การประกันภัยอัคคีภัยหรือประกันไฟ เป็นการประกันภัยให้กับตัวทรัพย์สินนั้นไม่ว่าจะเป็นรูปแบบสังหาริมทรัพย์หรืออสังหาริมทรัพย์ประเภทสิ่งปลูกสร้างก็ตาม ผู้เอาประกันภัยสามารถที่จะทำประกันอัคคีภัยต่อทรัพย์สินได้ทั้งสิ้น
  • การประกันภัยรถยนต์
    >>การประกันภัยรถยนต์ เป็นการประกันความเสียหายอันเกิดจากการใช้รถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น ความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่รถยนต์ ความเสียหายที่รถยนต์ก่อให้เกิดขึ้นแก่ร่างกายและทรัพย์สินของบุคคลภายนอกรวมทั้งผู้โดยสารในรถยนต์
  • การประกันภัยทางทะเลและขนส่ง
    >>การประกันภัยทางทะเลและขนส่ง เป็นการประกันความเสียหายแก่เรือและทรัพย์สินหรือสินค้าที่อยู่ในระหว่างการขนส่งทางทะเล แยกเป็นการประกันภัยต่อตัวเรือซึ่งเป็นการคุ้มครองความเสียหายต่อตัวเรือจากอุบัติเหตุต่างๆ  และเป็นการคุ้มครองสินค้าที่เอาประกันซึ่งอยู่ในระหว่างการขนส่งทางทะเลหรือภัยที่ให้ได้รับความคุ้มครองที่อยู่ในเงื่อนไขที่ผู้เอาประกันภัยเลือกซื้อไว้
  • การประกันภัยเบ็ดเตล็ด
    >>การประกันภัย เป็นการประกันภัยเพื่อคุ้มครองความเสียหายอันเกิดจากอุบัติเหตุ หรือเกิดจากเหตุที่มิได้คาดหมายไว้ ซึ่งอยู่นอกเหนือความคุ้มครอง ตัวอย่างการประกันภัยเบ็ดเตล็ด เช่น การประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล, การประกันภัยความรับผิดจากผลิตภัณฑ์, การประกันภัยความรับผิดจากวิชาชีพ , การประกันภัยความรับผิดชอบส่วนบุคคล, การประกันภัยสำหรับวิศวกรรม, การประกันภัยทุกชนิดในการติดตั้งเครื่องจักร เป็นต้น

ในที่นี่ ทางเราจะนำเสนอเกี่ยวกับ การประกันภัยทางทะเลและขนส่ง และ การประกันภัยเบ็ดเตล็ด ส่วน การประกันภัยอัคคีภัย และ การประกันรถยนต์  อาจจะไม่นำเสนอเพราะอาจเป็นที่รู้จักกันมากแล้ว

“การประกันภัยทางขนส่ง”

>>การประกันภัยทางขนส่ง คือ การทำประกันความเสียหายสำหรับพาหนะที่ทำทางการขนส่งทั้งทางทะเลทางบกและทางอากาศ หรือเป็นการประกันทรัพย์สินหรือสินค้าที่อยู่ในระหว่างการขนส่ง โดยสามารถแบ่งการประกันภัยทางขนส่งออกได้เป็น 2 รูปแบบคือ

  • การประกันภัยการขนส่งสินค้าระหว่างการขนส่ง
    >>การประกันภัยการขนส่งสินค้าระหว่างการขนส่ง เป็นการประกันคุ้มครองพาหนะที่ใช้ในการขนส่ง กรณีที่เป็นทางทะเลขนส่ง ก็จะเป็นการประกันภัยตัวเรือ เช่น การคุ้มครองความเสียหายต่อตัวเรือจากอุบัติเหตุ ภัยจากลมพายุเรือเกยตื้น เรือชนกัน เรื่อชนหินโสโครก เป็นต้น

>>ทั้งนี้ยังได้รวมไปถึงการประกันค่าระวางด้วย กรณีที่ผู้เอาประกันภัยนั้นมีเรือหลายลำ ก็อาจรวมเรือหลายลำนั้นไว้ในกรมธรรม์ฉบับเดียวกันก็สามารถทำได้ โดยกรมธรรม์จะมีการระบุชื่อเรือ จำนวนเรือ ทั้งหมดไว้ในรายละเอียดกรมธรรม์เพื่อช่วยให้ผู้เอาประกันภัยเสียเบี้ยประกันภัยถูกลงและทำให้ผลการประกันภัยแบบรวมนี้มีลักษณะต่ำกว่ามาตรฐานได้อีกด้วย

  • การประกันภัยการขนส่งแบบการประกันภัยสินค้า
    >>การประกันภัยการขนส่งแบบการประกันภัยสินค้า  เป็นการประกันสำหรับคุ้มครองสินค้าที่เอาประกันภัยนั้นอยู่ในระหว่างการขนส่งทางทะเล โดยการประกันภัยนี้นั้นจะทำการคุ้มครองสินค้าโดยที่การคุ้มครองนั้นจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ผู้เอาประกันภัยเลือกซื้อความคุ้มครองไว้กับบริษัทที่ให้ทำประกัน

>>เช่น การประกันภัยสินค้าให้กับสินค้าแบบทั่วไป เช่นเครื่องจักร รถแทรกเตอร์ และการประกันภัยสินค้าแบบที่เป็นสินค้าแบบเดียวกันทั้งหมด เช่น เป็นการประกันแบบเช่าเรือเหมาลำโดยมีการจัดการให้เรือแล่นรับสินค้าในระยะเวลาที่ผู้เช่าต้องการ เป็นต้น

“การประกันภัยเบ็ดเตล็ด”

>>การประกันภัยเบ็ดเตล็ดเป็นการประกันประเภทหนึ่งของการประกันวินาศภัย ซึ่งการประกันภัยเบ็ดเตล็ด ก็คือการประกันภัยเพื่อคุ้มครองความเสียหายอันเกิดจากอุบัติเหตุ หรือความเสียหายอันเกิดจากเหตุที่มิได้คาดหมายไว้ เป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือความคุ้มครองจากการประกันภัยอัคคีภัย

>>การประกันภัยทางทะเลและขนส่งและการประกันภัยรถยนต์นั่นเอง   การประกันภัยเบ็ดเตล็ดที่เพิ่มเติมจากการประกันภัยรถยนต์ เช่น การประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล เป็นการประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายอันเกิดจากปัจจัยภายนอกร่างกายของผู้เอาประกันภัยโดยอุบัติเหตุ

>>การประกันภัยเบ็ดเตล็ดที่ทำการประกันภัยความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก คือ การประกันภัยที่เกิดขึ้นโดยผลของกฎหมาย ซึ่งผู้เอาประกันภัยได้เป็นผู้ที่กระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลภายนอก โดยการประกันภัยเบ็ดเตล็ดในเรื่องนี้นั้นจะทำความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอกนี้จึงเป็นประกันภัยที่บริษัทผู้รับประกันภัยเป็นผู้ให้สัญญาว่า จะรับผิดชดใช้สินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกที่ได้รับความเสียหายในนามผู้เอาประกันภัย

>>ยกตัวอย่างเช่น การประกันภัยความรับผิดต่อสาธารณะ, การประกันภัยความรับผิดจากผลิตภัณฑ์, การประกันภัยความรับผิดจากวิชาชีพ , การประกันภัยความรับผิดชอบส่วนบุคคล, การประกันภัยการเสี่ยงภัยทุกชนิด, การประกันภัยสำหรับวิศวกรรม, การประกันภัยทุกชนิดในการติดตั้งเครื่องจักร, การประกันภัยทุกชนิดของผู้รับเหมาก่อสร้าง, การประกันภัยปศุสัตว์, การประกันภัยเพื่อชดเชยผู้เล่นกอล์ฟ, การประกันภัยเงินค่าทดแทนแรงงาน, การประกันภัยทรัพย์สินเนื่องจากโจรกรรม, การประกันภัยโจรกกรม, การประกันภัยสำหรับเงิน, การประกันภัยโจรกรรมการขนย้ายเงินสด, การประกันภัยโจรกรรมเครื่องใช้สำนักงาน, การประกันภัยความซื่อสัตย์, การประกันภัยกำไร  เป็นต้น

“การประกันภัยและประโยชน์ของการประกันภัย”

>>การประกันภัยนั้นสามารถทำได้ต่อทั้งส่วนที่เป็นชีวิตและทรัพย์สิน รูปแบบกรมธรรม์นั้นมิได้มีแต่เรื่องสุขภาพและการประกันชีวิตเท่านั้นมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เราควรจะให้ความสำคัญและเห็นประโยชน์ของการทำประกันทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างหลักประกันที่มั่นคงและปลอดภัยให้กับชีวิตและทรัพย์สินอันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนของโลกใบนี้

>>การทำประกันภัยที่เกิดขึ้นจากการมองเห็นความสำคัญคุณค่าและสร้างหลักประกันขึ้นด้วยตนเอง เป็นการเรียกประกันชนิดนี้ว่า การประกันภัยแบบสมัครใจ ถ้าหากเป็นการประกันที่เกิดขึ้นจากมุมมองของคนอื่นที่มองเห็นความสำคัญและความจำเป็นของการประกันภัยแล้วบังคับให้เราทำโดยที่ตัวเราเองก็ไม่เต็มใจที่จะทำแต่ต้องจำใจทำด้วยการบังคับหรือเหตุผลบางอย่าง

>>ประกันภัยแบบนี้เรียกว่า “การประกันภัยภาคบังคับ” โดยมักจะเกิดขึ้นกับ ผู้ประสบภัยที่จำต้องซื้อการประกันภัยสินค้าในกรณีที่ซื้อสินค้าด้วยเงินเชื่ออย่างเช่น การประกันภัยรถยนต์ ,การประกันอัคคีภัยบ้าน เป็นต้น

“ประโยชน์ของการประกันภัย”

>>ประโยชน์ของการประกันภัยในทางตรงนั้นก็มีขึ้นเพื่อที่จะให้ความคุ้มครองต่อความเสี่ยงภัยอีกทั้งยังเป็นการช่วยลดหรือบรรเทาความเสียหายให้แก่ผู้ประสบภัยที่ได้ทำประกันภัยไว้โดยตรง

>>ทั้งนี้การประกันภัยก็ให้ประโยชน์ทางอ้อมที่ไม่ได้ส่งผลต่อผู้เอาประกันภัยโดยตรงมากมายหลายต่อสังคมและธุรกิจหลายประการดังต่อไปนี้ เช่น การประกันภัยเป็นการสร้างความเสถียรภาพในการประกอบธุรกิจ ,การประกันภัยช่วยก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการประกอบธุรกิจ ,การประกันภัยถือเป็นรากฐานสำคัญของระบบสินเชื่อ, การประกันภัยช่วยป้องกันภัยและบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุไม่คาดฝันต่อตัวผู้ประกันหรือสินทรัพย์

การประกันภัยเป็นรูปแบบการออมทรัพย์รูปแบบหนึ่ง และการประกันภัยนั้นช่วยให้การคำนวณต้นทุนที่เกิดขึ้นใกล้เคียงกับความเป็นจริง

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *