>>คนเรามักให้ความสำคัญกับการวางแผนไปท่องเที่ยวมากกว่าการวางแผนชีวิต เมื่อเราคิดจะเดินทางท่องเที่ยว เรามักใช้เวลาหาข้อมูลเตรียมงบประมาณและวางแผนเป็นอย่างดี ทั้งนี้เป็นเพราะเราไม่ต้องการให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันระหว่างการเดินทาง
>>แต่สำหรับการเดินทางของชีวิต เรามักจะมองข้ามที่จะวางแผนอย่างเป็นขั้นตอน กระทั่งการจัดสรรงบประมาณที่จะช่วยในแต่ละช่วงของชีวิต จนหลายครั้งต้องพบเจอความยากลำบากระหว่างทางโดยเฉพาะเรื่องของการเงิน
“จะดีกว่าไหม”>> หากเราให้ความสำคัญกับการวางแผนชีวิตไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการเดินทางท่องเที่ยวเพราะชีวิต คือการเดินทางที่ไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะพบเจอสิ่งใดบ้าง การเตรียมพร้อมอยู่เสมอด้วยการวางแผนทางการเงินรอบด้าน จึงน่าจะช่วยให้การเดินทางของชีวิตเป็นไปอยางราบรื่นและจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย เป็นชีวิตที่เราออกแบบได้ดั่งที่ใจต้องการ
>>ท่านทราบหรือไม่ว่า เราควรมีเงินไว้จ่ายประมาณ 4-6 เท่าของค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน เพื่อทำให้เกิดสภาพคล่องทางการเงิน ส่วนเงินที่เหลือจาก 4-6 เท่าดังกล่าว เราควรนำมาเก็บสำรองไว้ในรูปของเงินออมเพื่อใช้ตอบโจทย์ความต้องการต่างๆ ในอนาคต ทั้งนี้
“การออมเงินสามารถทำได้ง่ายๆด้วยวิธีต่อไปนี้”
@ 50-30-20 วางแผนค่าใช้จ่ายประจำ (ค่าผ่อนบ้าน,ค่าผ่อนรถ,ภาษี เป็นต้น) และค่าใช้จ่ายจำเป็น (ค่าน้ำ,ค่าไฟ,ค่าอาหาร และอื่นอีก) รวมกันแล้วเท่ากับครึ่งหนึ่งของรายได้คือร้อยละ 50 ส่วนร้อยละ 30 เป็นค่าใช้จ่ายตามความต้องการในแต่ละเดือน สุดท้ายร้อยละ 20 คือเงินออม
@ ออมอย่างน้อยร้อยละ 10 ของรายได้ในแต่ละเดือน สำหรับผู้ที่อายุ 40 ปีขึ้นไปควรออมให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 20 ของรายได้แต่ถ้าอายุ 50 ปีขึ้นไปควรออมให้ได้ร้อยละ 50 และหากอายุ 55 ปีควรต้องออมให้ได้ร้อยละ 80 ของรายได้เลยที่เดียว
@ การทดสอบความสามารถในการออมเงินของเราในปัจจุบันว่า วินัยในการออมที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์นี้หรือไม่
เงินออมควรอยู่ในรูปแบบของสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีและมีการประกันความมั่นคงในอนาคต โดยไม่ควรกระจุกเงินออมอยู่ในสินทรัพย์เพียงชนิดเดียวเพื่อการกระจายความเสี่ยง
ใส่ความเห็น