“ทำไมคนเราต้องออมเงิน” เพราะ เป็นเรื่องใกล้ตัวที่คนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยนึกถึงและไม่ยอมที่เก็บสะสมไว้ตั้งแต่เนินๆเมื่อถึงเวลาที่จำเป็นต้องใช้เงิน อาจจะไม่มีเงินมาใช้ แต่ที่ผ่านมาเราอาจจะไม่ได้นึกถึงว่าเราอาจสามารถนำเงินออมมาทำงานเพิ่มค่าแทนตัวเราได้ ในการออมเงินนั้นมีหลากหลายรูปแบบแตกต่างกันไป เช่น ฝากแบงค์ ลงทุนในหุ้น ซื้อสลากออมสิน ทำประกันชีวิต กองทุนต่างๆ เป็นต้น แล้วแต่ตัวบุคคลนั้นที่จะเลือกว่าจะออมยังไงออมเท่าไร
>>> ในปัจจุบันนี้สังคมไทยได้มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมมาก ทำให้มีการคิดหาหนทางที่จะพึ่งพาตัวเองให้มากขึ้นกว่าแต่ก่อนและคิดถึงอนาคตตัวในข้างหน้ามากกว่าเดิม จึงทำให้ทุกคนหันมาสนใจการออมตั้งแต่วัยทำงานมากขึ้น โดยมีปัจจัยในการออมดังนี้
- การออมเพื่่อไว้ในยามฉุกเฉินหรือเมื่อเราเจ็บป่วย เพราะว่าเราไม่สามารถที่จะรู้ล่วงหน้าได้เลยว่าในวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น ทำให้เกิดเป็นรายจ่ายที่ไม่คาดคิดซึ่งไม่สามารถวางแผนล่วงหน้าได้
- การออมไว้ใช้ในยามชรา ซึ่งเป็นการออมไว้ใช้ในอนาคตของตัวเองเมื่อตัวเราหารายได้ไม่ได้แล้วและที่สำคัญไม่ต้องเป็นภาระของลูกหลานในเวลาจำเป็น
>>> เมื่อตั้งใจจะออมแล้วเราควรมีเป้าหมายในการออม ไม่ควรจะออมมากเกินไปหรือน้อยจนเกินไป ควรให้พอดีพอดีสำหรับเรา ถ้าออมมากเกินไปโดยไร้ความสุขตั้งหน้าตั้งตาเก็บอย่างเดียวบางที่อาจจะทำให้เราเครียดได้ ถ้าออมน้อยเกินไปบางที่เกิดเหตุการ์ณไม่คลาดฝันขึ้นมาบางที่เงินที่ออมก็อาจจะไม่พอต่อความจำเป็นนั้นได้ ควรจะออมไปแล้วมีความสุขกับการออมดีกว่า
“แล้วเราจะทำยังไงดีละกับการออมแบบพอดีพอดี เพื่อจะเอาไปใช้จ่ายอย่างเพียงพอในอนาคต”
- ควรมีรายจ่ายน้อยกว่ารายรับ แล้วควรจะเก็บออมไว้ก่อน
- ควรจะทำประกันชีวิตไว้บ้าง เพื่อลดความเสี่ยงต่างๆทั้ง คุณ และ ครอบครัว
- ควรศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับด้านการลงทุนไว้บ้าง เพื่อจะทำให้เงินที่เก็บออมไว้นั้นเพิ่มมากขึ้น
- ถ้ามีรายจ่ายควรจะจ่ายหนี้ที่มีดอกเบี้ยแพงที่สุดก่อนใคร
>>> เมื่อเราทำได้ตามหัวข้อแล้วอาจจะทำให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขไม่ต้องกังวลใจว่าจะไม่มีเงินเมื่อเจอเหตุการ์ณที่คลาดไม่ถึงและยังจะสามารถมีเงินเก็บใว้ใช้ในตอนแก่ชราโดยอาจไม่ต้องพึ่งพาลูกหลานให้ลำบาก
ใส่ความเห็น