ออมเงิน 15 เปอร์เซ็นต์ ของทุกเดือน / ออมในอัตราที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
นับว่าเป็นทฤษฎีขั้นพื้นฐานในการออมเงิน กับอัตราการออมเงินให้ได้ 15 เปอร์เซ็นต์ ในทุก ๆ เดือน
หากคุณเงินเดือน 20,000 บาท ก็ควรออมให้ได้อย่างต่ำ 3,000 บาท
หากคุณเงินเดือน 30,000 บาท ก็ควรออมให้ได้อย่างต่ำ 4,500 บาท
หากคุณเงินเดือน 50,000 บาท ก็ควรออมให้ได้อย่างต่ำ 7,500 บาท
หลายท่านอาจจะคิดว่า ออมเดือนละ 3,000 ทั้งปีก็ได้แค่ 36,000 บาท ออม 10 ปีก็ได้เพียงแค่ 360,000 แล้วมันจะพอเหรอ?
ก็ขออธิบายว่า หากเรามองมันเป็น 15 เปอร์เซ็นต์ เราจะออมในจำนวนเงินที่มากขึ้นไปเรื่อย ๆ ตามรายได้ที่เราได้รับ จบใหม่อาจจะออมน้อยหน่อย แต่ก็จะออมมากขึ้นในอนาคตข้างหน้า
แต่สำหรับเด็กจบใหม่ หากเพิ่งมีเงินเดือนประมาณ 15,000 บาทอาจจะเก็บออมจำนวน 15 เปอร์เซ็นต์ ไม่ไหวในทุก ๆ เดือน (แค่ใช้ก็เกือบจะไม่พออยู่แล้ว) ก็ขอแนะนำว่าพยายามออมในจำนวนที่ออมไหว แต่อย่าลืมว่าในวันที่เรามีเงินเดือนเยอะขึ้น เราก็ควรออมในอัตราที่เพิ่มขึ้นด้วย
จะได้เพิ่มพูนจำนวนเงินออมให้มาก ๆ ขึ้นไป หรือหากเรามีควบคุมการใช้จ่ายที่ดีมากพอ เราจะเพิ่มในอัตราที่มากกว่า 15 เปอร์เซ็นต์ ก็ย่อมได้
หากมีวินัยในการออมดี ๆ เพียงแค่อายุ 30 เราก็จะมีเงินเก็บเป็นเงินก้อนใหญ่ก้อนนึงแล้ว
เลือกลงทุนให้เป็น
สำหรับการลงทุน เราคงไม่มีทฤษฎีตายตัว แต่ถ้าเป็นการแนะนำ เราก็คงแนะนำว่า การลงทุนไม่จำเป็นต้องเป็นการลงทุนด้วยเงินมหาศาล เพราะถึงแม้เป็นมนุษย์เงินก็สามารถลงทุนได้
ควรเรียนรู้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย ตราสารหนี้ ตราสารทุน กองทุนรวม หุ้น เพราะแต่ละผลิตภัณฑ์ก็มีจุดดี จุดเด่นที่แตกต่างกัน ความเสี่ยงน้อย ความเสี่ยงมาก ผลกำไร และอีกมากมายหลายปัจจัย
เพราะฉะนั้น ควรถามตัวเองให้ชัดว่า มีเงินทุนในการลงทุนประมาณไหน รับความเสี่ยงได้เท่าไร ศึกษาข้อมูลไว้ให้ดี ติดตามข่าวบ้านการเมืองเอาไว้ด้วย เพราะแต่ละปัจจัยนั้นส่งผลต่อการลงทุนทั้งสิ้น ที่สำคัญต้องมีวินัยอีกด้วย
หารายได้ให้มากขึ้น
การออมนับว่าเป็นเรื่องดี แต่แนวคิดการเป็นเศรษฐีต้องมากับการหารายได้ที่มากขึ้นเหมือนกัน หลายคนมักโฟกัสกับการออมมากเกินไป แต่อย่าลืมการหาเงินที่มากขึ้นก็จะช่วยให้การออมมากขึ้นเช่นกัน
การหารายได้พิเศษหลายอย่างอาจจะมาพร้อมกับการทำงานประจำ อาทิ การเลือกลงทุน การขายของออนไลน์ การต่อรองเรื่องเงินเดือน และอีกมากมายหลากหลายวิธี เอาเป็นว่าของใช้ความถนัด ความชอบของคุณมาเพื่อตอบโจทย์จุดนี้ให้ได้ คุณจะไม่เหนื่อยจนเกินไป แถมมีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
ไม่ใช่จ่ายสุรุ่ยสุร่ายเกินควร
เป็นแนวคิดพื้นฐานที่พูดถึงกันอยู่บ่อย ๆ แต่ก็นับว่าเป็นเรื่องพื้นฐานที่ทำได้ยากมากที่สุดเรื่องหนึ่งเหมือนกัน หลายคนมีการเก็บออมที่ดี มีรายได้ที่ใช้ได้ แต่มาตกม้าตายที่ใช้จ่ายเกินควร
เพราะคุณยุคใหม่มักมีพฤติกรรม “ได้มาเท่าไร บริโภคเท่านั้น” นี่เป็นปัญหาใหญ่ที่ว่าว่าทำไมคน Gen Y จำนวนมากถึงไม่สามารถเก็บเงินได้ อาจจะเป็นแนวคิดที่ไม่ได้ผิดมากนัก
เพราะเป็นการหาความสุขส่วนบุคคล แต่ก็ควรควบคุมให้ได้ บาลานซ์การใช้จ่ายให้ตอบโจทย์ความได้พอประมาณ การเก็บเงินให้ได้ตามเป้า อาจจะมากับการเที่ยวที่น้อยลง ชอปปิงที่น้อยลงนั่นเอง
เลือกออมให้ถูกบัญชี
ถามตัวเองว่าบัญชีหลักที่คุณใช้ ตอบโจทย์คุณหรือยัง?
หลายคนมักจะละเลยการเลือกบัญชีเงินออมที่ถูกต้อง เพราะคิดว่าบัญชีไหนก็เหมือนกัน แต่ควรถามตัวเองว่าบัญชีหลักที่คุณใช้ ตอบโจทย์คุณหรือยัง เพราะแต่ละบัญชีอาจจะตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน
เราควรเลือกใช้อันที่ตอบโจทย์เข้าไว้และที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด เพราะแต่ละคนนั้นมีเทคนิคการออมเงิน แตกต่างกันไป
ใส่ความเห็น