+++ แค่ออกกำลังกาย ทำไมต้องวางแผนการเงิน

ช่วงนี้เทรนด์การออกกำลังกายดูแลสุขภาพกำลังมาแรง และคงจะยาวนานต่อเนื่องไปอีกหลายปี แต่เพื่อนๆ ทราบกันหรือไม่ ? ว่าการออกกำลังกายก็ต้องวางแผนการเงินเหมือนกันนะ เพราะว่ากีฬาหลายๆ ประเภทอาจจะใช้เงินมากกว่าที่เราคิด

ลองมาดูการออกกำลังกายฮิตๆ กันก่อนว่ามีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่บ้าง

การออกกำลังกายด้วยการ “วิ่ง” เหมือนจะเป็นการออกกำลังกายที่ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรมากนัก แต่ในทางกลับกันแล้วการวิ่งก็มีค่าใช้จ่ายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ค่าสมัครวิ่งแต่ละรายการ ค่ารองเท้า และหากคุณเริ่มวิ่งระยะทางไกลมากขึ้น เช่น งานวิ่งมาราธอน อาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในเรื่องการเดินทางทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านอื่นๆ อีก เป็นต้น

การออกกำลังกายด้วยการ “ปั่นจักรยาน” ในเรื่องของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องค่าจักรยานที่มีตั้งแต่หลักหมื่นจนไปถึงหลักแสน แต่ถ้าหากคุณรักการออกกำลังกายด้านนี้จริงๆ ก็ต้องเริ่มวางแผนเก็บเงินให้ดีๆ เพราะนอกจากค่าจักรยานที่ต้องเสียแล้วยังมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าอุปกรณ์อื่นๆ อีกด้วย

การออกกำลังกายด้วยการ “ฟิตเนส” ถือเป็นการออกกำลังกายที่คนเมืองนิยมกันมาก เพราะมีอุปกรณ์หลายอย่างให้เลือกออกกำลังกายรวมไปถึงยังเดินทางสะดวกประหยัดเวลาอีก ในส่วนของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นก็จะเป็นในเรื่องของการสมัครสมาชิกฟิตเนสแต่ละแห่ง โดยมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ ค่าแรกเข้า ค่ารายเดือน ค่ารายปี ค่าเทรนเนอร์ มีตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักหมื่นขึ้นไป

เราสามารถออกกำลังกายควบคู่ไปกับการวางแผนทางการเงินได้ เพียงแค่เริ่มมองดูกระแสเงินสดของเราก่อนว่ามีมากพอที่จะออกกำลังกายแบบไหนได้บ้าง หลังจากนั้นก็เริ่มวางแผนค่าใช้จ่ายสำหรับการออกกำลังกายที่เราชอบ

เราควรวางแผนค่าใช้จ่ายสำหรับการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของเราก่อน แล้วค่อยปรับเปลี่ยนไปตามเงินในกระเป๋า ตั้งเป้าหมายเพื่อซื้ออุปกรณ์ต่างๆ เพิ่มไปในแผนการเงินระยะสั้น

เริ่มง่ายๆ จากการดูกระแสเงินสดของเราก่อนว่ามีมากพอที่จะออกกำลังกายแบบไหนได้บ้าง พอจะทราบเคล็ดลับไปบ้างแล้วลองไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพื่อสุขภาพกายที่แข็งแรง และสุขภาพการเงินที่ดีไปพร้อมๆ กัน

#การเงิน