แนวคิด

+++ 5 สาเหตุที่ทำให้ไม่สามารถออมเงินได้

หนึ่งในเรื่องที่ผมเองพบเจออยู่เป็นประจำเมื่อได้พบเจอพูดคุยกับทุกคน ก็คือ ทุกคนอยากออมเงิน แต่ไม่สามารถออมเงินได้ตามที่ตั้งใจ หรืออย่างมากก็ออมไปได้สักระยะก็มีเหตุให้ต้องล้มเลิก นำเงินออมออกไปใช้

ทั้งที่ส่วนใหญ่หรือเกือบจะทั้งหมดทราบดีถึงความสำคัญของออมเงิน แต่อะไรคือสาเหตุที่แท้จริงกันแน่ที่ทำให้คนส่วนมากไม่สามารถออมเงินได้

วันนี้ผมจะมาแชร์จากประสบการณ์จริงว่าอะไรกันแน่ที่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้การออมเงินเป็นเรื่องที่ยากถึงขั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้

ผมมี5สาเหตุหลักมาแบ่งปันครับ

1.คนส่วนมากออมเงินแบบมีเป้าหมาย อ้าว? งง? ใช่ครับ ตามนั้นเลย ผมเขียนไม่ผิดครับ คนส่วนมากออมเงินแบบมีเป้าหมายซึ่งส่วนมากเป็นเป้าหมายระยะสั้นแทบจะทั้งหมด เช่น อยากไปเที่ยวต่างประเทศปลายปี อยากทำจมูก อยากได้มือถือรุ่นใหม่ อยากแต่งงานต้นปีหน้า อยากได้รถคันใหม่ อยากๆๆ

แบบนี้คงต้องเรียกว่าเป็นการออมเพื่อใช้ครับ ไม่ใช่การออมที่แท้จริง ดังนั้นแท้จริงของการออมนั้นต้องไม่ใช่การออมแบบมีเป้าหมาย(ระยะสั้น) แต่คือ การออมแบบมีวินัย วินัยเท่านั้นที่จะทำให้การออมเงินเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ ซึ่งก็มีหลากหลายตำรา มากมายทฤษฎีในการหาสัดส่วนเงินออมที่เหมาะสม

สำหรับผมขอแนะนำง่ายๆว่าถ้าจะออมให้เป็นวินัยจริงๆ 10% ของรายได้เป็นตัวเลขที่เหมาะสม ถ้าจะออมให้มากกว่านี้ได้ก็ถือเป็นเรื่องดี แต่ถ้าน้อยกว่าคงต้องว่ากันไปแล้วแต่กรณี ที่สำคัญต้องไม่ใช่การออมเพื่ออะไรบางอย่างแต่ต้องออมแบบมีวินัยเท่านั้น(ไม่ถอนมาใช้ครับ)

2.ไม่มีความอดทนต่อการตลาดในยุคสังคมออนไลน์ ที่มีการกระตุ้นแบบกระชากให้เรามีการใช้จ่ายตลอดเวลา จะเห็นว่าปัจจุบันนั้นมีกลยุทธ์มากมายในการสร้างความต้องการในโลกออนไลน์ที่เข้าถึงผู้คนเป็นจำนวนมาก แบบเฉพาะเจาะจง และมีโปรมแกรมที่เก่งกาจมาก

พอที่จะนำสินค้าที่น่าจะทำให้ท่านใช้จ่ายได้ผ่านพฤติกรรมของท่านในโลกออนไลน์ เช่น ถ้าท่านเป็นสนใจวิ่งมาราธอน ก็จะมีอีเว้นท์ มีสินค้าที่เกี่ยวกับการวิ่งหลั่งไหลมาหาท่านไม่หยุดหย่อน ดังนั้นหากท่านไม่มีจุดยืน หรือวินัยทางการออมที่ดีพอ ท่านก็จะถูกกลยุทธ์การตลาดต่างๆนำเงินออกจากกระเป๋าท่านแบบไม่รู้ตัว

3.มีภาวะหนี้สินล้นตัว ซึ่งเป็นเรื่องที่ต่อเนื่องจากพฤติกรรมที่ใช้จ่ายเงินแบบขาดวินัย ในยุคที่การมีหนี้เป็นเรื่องที่ง่าย การโทรศัพท์มาขายบัตรเครดิต หรือสินเชื่อส่วนบุคคล เป็นเรื่องที่เข้าถึงทุกคนเป็นเรื่องปกติ

ก็ไม่แปลกที่มีคนส่วนมากที่วันเงินเดือนออก กับวันเงินหมดแทบจะเป็นวันเดียวกัน สมัยนี้คำว่าเดือนชนเดือนนี่ถือว่าดูดีมีชาติตระกูลเลยทีเดียว แล้วอย่างนี้ท่านจะมีเงินออมได้อย่างไร

4.ยังขาดความรู้ด้านการเงิน เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจที่ปกติธรรมดามาก(งงมั้ยครับ?) ที่คนส่วนใหญ่ทำทุกวิถีทางเพื่อหาเงิน แต่ไม่ยอมเรียนรู้เรื่องการบริหารเงินที่หามาได้ หลายคนมีโอกาสได้ใช้เครื่องมือ

หรือระบบทางการเงินที่จะช่วยให้สามารถมีวินัยในการออมเงิน อย่างเช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ RMF หรือแม้กระทั่ง กองทุนทุนการออมแห่งชาติ(ที่จะได้รับเงินสมทบสูงถึง80%) (อ้าว งงเข้าไปอีกก!) แต่กลับไม่เคยศึกษาผลประโยชน์แบบจริงๆจังๆ ทั้งๆที่มีประโยชน์มากๆๆ

5.ให้ความสำคัญเรื่องการลงทุนแบบไม่ลืมหูลืมตา เปล่านะผมไม่ได้บอกว่าการลงทุนไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ แต่กำลังจะบอกว่า การออมกับการลงทุน คือเงินคนละก้อนกัน เราควรออม10% ของรายได้แต่ถ้ามีเงินเหลืออยากไปลงทุน ก็จัดสรรปันส่วนเงินก้อนอื่นกันไป มาถึงตรงนี้

หลายคนเริ่มอยากลงทุนมากกว่าออม(เริ่มโลภกันละสิ) แต่อยากบอกว่าปัจจุบันเราสามารถหาผลตอบแทนให้เงินออมเราด้วยเครื่องมือการออมที่หลากหลายตามระยะเวลาที่เราออมและความเสี่ยงที่เหมาะสม ลืมเรื่องการออมเงินด้วยธนาคารไปได้เลย โอกาสถัดไปผมจะมาเล่าเรื่องเครื่องมือทางการเงินที่จะใช้ในการออมเงินให้ฟัง เอาเป็นว่าเราควรแบ่งเงินออกเป็นหลายๆก้อน และแบ่งหน้าที่ให้เงินแต่ละก้อนทำงานต่างกันไป

สุดท้ายสภาวะการณ์การเงินต่างๆที่ทุกคนต้องเผชิญ ต้องมีการทบทวนและวางแผนแบบระยะยาว และไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามการมีวินัยเรื่องการออมเงินเป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกคนที่อยากจะประสบความสำเร็จเรื่องเงินต้องทำแบบไม่มีข้อยกเว้น

ถ้าถามผมว่าควรเริ่มออมเงินเมื่อไหร่ ผมก็จะตอบแบบง่ายๆว่าเมื่อมีรายได้ ท่านต้องออมเงินทันทีครับ รู้อย่างนี้แล้ว รีบวางแผนการเงินให้ตัวเองด่วนๆครับ

#ณัฐกิตติ์ เงาวิจิตรไพศาล FChFP ,ChLP

#AssetOnTIME

Thanakrit

การเงิน การออมเงิน ประกันชีวิต และประกันภัย